วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ปฐมบท : สงครามร้อยปี กลิ่นคาวเลือดไม่รู้จบ

ปฐมบท : สงครามร้อยปี กลิ่นคาวเลือดไม่รู้จบ 
 
ในยุคสมัยที่ถูกลืมเลือน  หลายร้อยปีก่อนหน้าที่สรรพสิ่งมลายเป็นธุลีดินนอกจากเงาขาดวิ่นของ
อาทิตย์อัสดงสีเลือด ทุกอย่างล้วนไร้ซึ่งความหมายนับตั้งแต่มหาสงครามระหว่างพรรคมารและฝ่าย
ธรรมะ  เมืองเสินโจว ตกอยู่ในความโกลาหล   มหาสงครามที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์มิว่า
ฝ่ายใดล้วนต้องจ่ายค่าตอบแทนอันแสนโหดร้ายยอดฝีมือนับไม่ถ้วน    ต้องสิ้นชีพลงที่นี่เหลือเพียง
ความย่อยยับปราชัยทั้งสองฝ่ายเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่เหนือทุกพรรค ชำระความแค้นระหว่างกัน
คนรุ่นแล้วรุ่นเล่ารบราฆ่าฟันกัน  ไม่หยุดหย่อนจนทุกสิ่งทุกอย่างสูญสิ้นไปหมดยุทธภพที่นองเลือด
ผู้คนทุกข์ทนแสนสาหัส ในยามที่ทหารหลวงไร้กำลังปราบปรามดูราวกับว่าความมืดที่ปกคลุมเมือง
เสินโจวจะไม่มีวันจางหายไปเมื่อใดจึงจะถึงจุบจบของทุกสิ่ง ? 
 
เซียนจอมยุทธ์กระบี่ผงาดแผ่นดิน  
บางทีอาจเป็นเพราะ ในที่สุดสวรรค์ก็เวทนาราษฎรผู้ทุกข์ยากแสนเข็ญหลังจากที่ตกอยู่ในความมืด
มิดมาร้อยปี จอมยุทธ์หนุ่มผู้หนึ่งก็ปรากฎตัวขึ้นไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขามาจากที่ใด แล้วก็ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขามี
นามว่าอะไรรู้เพียงแต่เขาอาศัยเพลงกระบี่ที่เหนือชั้นผาดโผนไปทั่วยุทธภพกับใบหน้าที่แย้มยิ้มบาง
เบา ยอดฝีมือทุกพรรคต้องศิโรราบ  ให้เขาไม่ขาดสายในที่สุด ก็ไม่มีผู้ใดกล้าต่อกร เพราะเงาร่างที่
อยู่สูงสุดเอื้อมนั้น รวมยุทธภพให้เป็นหนึ่งไม่ว่าท่านเป็นฝ่ายธรรมะ   ลัทธิมารก็ตามแต่ไม่มีผู้ใดกล้า
มาลองดี ด้วยความพยายาม ของเขายุทธภาพที่ยุ่งเหยิงก็กลับมามีระเบียบอีกครั้ง   ฝ่ายธรรมะและ
ลัทธิมารแบ่งแยกขอบเขตอำนาจกั้นระหว่างกัน  ไม่ก้าวก่ายกันและกันภายในสำนักก็คัดเลือกศิษย์
ที่มีความสามารถรับตำแหน่งประมุขศิษย์  ภายในสำนักห้ามต่อสู้กันเองเด็ดขาดห้ามรังแกผู้บริสุทธิ์
แม้แต่ลัทธิมารก็ต้องทำเช่นนี้ฉะนั้นเมื่อทุกสำนักใหญ่ฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง   ทุกคนเริ่มต้นสร้างระเบียบ
วินัยขึ้นมาใหม่และจอมยุทธ์หนุ่มที่ไม่ใครรู้ความเป็นมาผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้ก็ได้รับขนามนามว่า
จอมกระบี่ฟ้าคลั่ง  กลายเป็นประมุขของทั้งพรรคธรรมและพรรคมาร  หลังจากยุทธภพกลับสู่ความ
สงบได้ไม่นานจอมกระบี่ฟ้าคลั่งก็หายสาบสูญไปไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขาไปที่ใดก็เป็นดังเช่นตอนที่ปรากฎ
ตัวเขาหายลับไปจากสายตาอย่างไร้ร่องรอยนับจากวันที่เขาหายสาบสูญไป เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงเขา 
 
ปีฟ้าคลั่งที่ 327 : ยุทธภพแตกแยก ถามโลกรักเป็นฉันท์ใด  
กลางเดือนสาม หนานกงเสี่ยวเยี่ย ภรรยาของ ฉางเซียวเทียนผู้นำหอวิหคแดงของลัทธิปีศาจโลหิต
ถูกโจรป่าลอบโจมตี ระหว่างทางกลับไปบ้านมารดาที่เมืองฟ้าล้ำเนื่องจากมีคนน้อยต้านศัตรูไม่ไหว
จึงได้รับบาดเจ็บภายในสาหัสในขณะนั้นเอง  หยางอี้เทียนยอดฝีมือพรรคเผิงไหลหนึ่งใน 13 พรรค
ธรรมผ่านทางมาจึงเข้าช่วย หยางอี้เทียนไม่รู้ฐานะของนางจึงพากลับไปรักษาตัวที่พรรคเผิงไหล 
 
เดือนสี่ ต้วนมู่หวินหัวหน้าพรรคเผิงไหลพบมาพบหนานกงเสี่ยวเยี่ยใช้พิราบสื่อสารส่งข่าวไปถึงลัทธิ
ปีศาจโลหิตโดยบังเอิญ  จึงสั่งหยางอี้เทียนสังหารนางด้วยความโกรธ ทว่าจากการอยู่ร่วมกันมา 1 
เดือนหยางอี้เทียนตกหลุมรักหนานกงเสี่ยวเยี่ยเขาจึงผลั้งมือทำร้ายต้วนมู่หวินบาดเจ็บแล้วพาหนาน
กงเสี่ยวเยี่ยได้หนีออกจากพรรคเผิงไหล  ต้วนมู่หวินจึงแจ้งต่อ 13 พรรคธรรมทันทีขอให้ช่วยล่า
สังหารคนทรยศ 
 
ต้นเดือนห้า ฉางเซียวเทียนรู้เรื่องนี้เข้า จึงตามหาจนได้พบคนทั้งสองหลบอยู่ในหมู่บ้านรวงข้าวด้วย
ความซึ้งใจ เขาหวังว่าหยางอี้เทียนจะสวามิภักดิ์ต่อลัทธิปีศาจโลหิต แต่ถูกเขาปฎิเสธอย่างละมุนละ
ม่อมดังนั้นเขาจึงได้แต่พาหยางอี้เทียนไปหลบซ่อนที่หุบเขาพานหยางในขณะนั้นเขายังไม่รู้ว่าหนาน
กงเสี่ยวเยี่ยภรรยาของตัวเองในระหว่างที่หลบหนีก็เกิดความรักในตัวหยางเทียนอี้เช่นกัน 
 
ปลายเดือนห้า 13 พรรคธรรมโดยการนำพาของต้วนมู่หวินมาถึงหอใหญ่ลัทธิปีศาจโลหิต ขอให้จ้าว
ลัทธิลี่อั่วสิงส่งตัวคนทรยศหยางอี้เทียนออกมา  ลี่อั่วสิงที่รู้เรื่องนี้จากฉางเซียวเทียนก่อนหน้านี้แล้ว
ได้ปฎิเสธคำขอนี้  สองพรรคที่ไม่เคยถูกกันก็เริ่มจับอาวุธเผชิญหน้ากันโจวอู๋จี้ประมุขพันมิตรเทียน
ซานหนึ่งในเจ็ดพันธมิตรสราญรมย์ มาถึงได้ทันเวลาห้ามการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายหลังจากเจรจากัน
สองพรรคตกลงให้ลัทธิปีศาจโลหิตจัดการเรื่องนี้ 
 
กลางเดือนหก   ขณะที่ฉางเซียวเทียนตัดสินใจหักหลังภรรยาตนส่งมอบตัวหยางเทียนอี้ออกไปใน
ยุทธภพ ก็มีข่าวลือว่าหยางเทียนอี้ผูกสมัครรักใคร่กับหนานกงเสี่ยวเยี่ย เตรียมจะหนีไปครองคู่กัน
ฉางเซียวเทียนเรียกคนทั้งสองมาเค้นถามเรื่องนี้ด้วยความโกรธ คนทั้งสองรู้ข่าวนี้เข้าจึงต้องหนีอีก
ครั้งด้วยความจำใจ 
 
ปลายเดือนหก หลังจากทั้งสองคนหายสาบสูญเกิดวิกฤตการณ์ในพรรคมารและพรรคธรรมทั้งสอง
ฝ่ายโมโหอับอายด้วยเรื่องนี้ต่างโทษอีกฝ่ายหนึ่งจนเกิดเรื่องปะทะกันไม่ขาดสายยุทธภพที่สุขสงบ
มาหลายร้อยปี ดูราวกับจะเกิดความหายนะขึ้นอีกครั้ง 
 
ปีฟ้าคลั่งที่ 327  :  ลัทธิฟ้าคลั่งสั่นสะเทือน  
เดือนสิบ หยางเทียนอี้และหนานกงเสี่ยวเยี่ยที่หายตัวไปนานปรากฎตัวในยุทธภพอีกครั้งและได้ก่อ
ตั้งสำนักฟ้าคลั่งที่บูชาจอมกระบี่ฟ้าคลั่งและมีเป้าหมายคืนความสงบให้ยุทธภพ 
 
ปีฟ้าคลั่งที่ 328 
 
เดือนห้า  ด้วยคำประกาศว่าจะคืนความสงบให้ยุทธภพ  ลัทธิฟ้าคลั่งขยายตัวอย่างรวดเร็ว จนล้ำหน้า
สามพรรคเดิมในยุทธภพ ลัทธิฟ้าคลั่งที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ทำให้พรรคมารและพรรคธรรมที่ใกล้
จะก่อศึกนองเลือดกันต้องละวางความแค้นไว้ชั่วคราว หันกลับมามองดูบ้าง 
 
เดือนเจ็ด   เซียวอินผู้คุ้มกฎลัทธิฟ้าคลั่งขโมยกระบี่ปราบเซียนสมบัติของพรรคเผิงไหลแล้วใส่ร้าย
พันธมิตรเทียนซาน  ทำให้พรรคสราญรมย์ทั้งเจ็ดถูกดึงมาเกี่ยวข้องด้วยประมุขพันธมิตรเทียนซาน
โจวอู๋จี้รับปากว่าจะตามหากระบี่ปราบเซียนคืนมาใน 1 เดือนทว่าครึ่งปีให้หลัง เขาก็ยังตามคืนมาไม่
ได้ด้วยเหตุนี้ หัวหน้าพรรคเผิงไหลต้วนมู่หวินจึงไม่พอใจเป็นอย่างมาก หากมิใช่ว่าลัทธิฟ้าคลั่งศัตรู
ตัวฉกาจอยู่ตรงหน้า   ก็แทบอยากจะบุกไปที่พันธมิตรเทียนซาน เอาเรื่องให้ถึงที่สุด 
 
เดือนแปด   เซียวอินนำคนในลัทธิสังหารศิษย์หอมังกรเขียวลัทธิปีศาจโลหิตจนไม่เหลือหรออีกทั้ง
ปล่อยข่าวว่า “ลัทธิปีศาจไร้เมตตา ลัทธิฟ้าคลั่งจะเข้ามาแทนที่” จนทำให้ยุทธภพสั่นคลอน 
 
ปีฟ้าคลั่ง 329  :  พันธมิตรเทพยุทธเมฆากวาดล้างฟ้าคลั่ง 
 
เดือนสอง เพื่อรวมพลังของพรรคธรรมพรรคเผิงไหลจึงกับรวม 12 พรรคธรรมขึ้นเป็นสำนักกระบี่เทพ
ให้ต้วนมู่หวินเป็นเจ้าสำนักคนแรก 7 พันธมิตรสราญรมย์ต่างมาแสดงความยินดี ขาดแต่เพียงโจวอู๋จี้ 
เรื่องนี้ทำให้ต้วนมู่หวินยิ่งไม่พอใจมากขึ้น 
 
เดือนห้า จ้าวลัทธิฟ้าคลั่งหยางเทียนอี้  ฉางเซียวเทียนนัดประลองที่เมืองทะเลตะวันออกอาศัยความ
ได้เปรียบเอาชนะอีกฝ่ายและลงมือสังหารทันที ลี่อั่วสิงรู้เรื่องเข้าตกใจเป็นอย่างมากตัดสินใจร่วมมือ
กับสำนักกระบี่เทพ 7 พันธมิตรสราญรมย์กวาดล้างลัทธิฟ้าคลั่งต้วนมู่หวินเจ้าสำนักกระบี่เทพตอบรับ
ด้วยความยินดี แต่ 7 พันธมิตรสราญรมย์ยังวางตัวเป็นคนนอก ทำให้สองพรรคไม่พอใจ 
 
วันที่ 15 เดือนแปด  วันที่ลัทธิฟ้าคลั่งเซ่นไหว้ศิลาศักดิ์สิทธิ์ฟ้าคลั่ง พันธมิตรสองพรรคที่มีต้วนมู่หวิน
เป็นหัวหน้าบุกเข้าโจมตีเมืองฟ้าคลั่ง หลังจากหยางอี้เทียนเอาชนะต้วนมู่หวินได้บนแท่นพิธีถูกลี่อั่วสิง
ทำร้ายบาดเจ็บสาหัสหลังจากนั้นหนานกงเสี่ยวเยี่ยฝากฝังลูกสาวไว้กับเซียวอินนำพาคนลัทธิฟ้าคลั่ง
ทำศึกนองเลือดกับสองพรรค 
 
วันที่ 18 เดือนแปด หลังจากสองฝ่ายต่อสู้นองเลือดมาสามวันในที่สุดพันธมิตรสองพรรคที่สูญกำลัง
กว่าครึ่งก็เอาชนะลัทธิฟ้าคลั่งได้ หนานกงเสี่ยวเยี่ยสู้จนตัวตาย   ศิลาศักดิ์สิทธิ์ฟ้าคลั่งถูกชิงลัทธิฟ้า
คลั่งต้องสลายตัวไปไม่พบเบาะแสของจ้าวลัทธิหยางอี้เทียนกับผู้คุ้มกฎเซียวอินถึงตอนนี้ต้วนมู่หวิน
จึงได้รู้ว่ากระบี่ปราบเซียนถูกเซียวอินขโมยไป เข้าใจโจวอู๋จี้ผิดไป 
 
ปีฟ้าคลั่งที่ 329  :  3 สำนักทำข้อตกลง 
 
ปลายเดือนแปด  สำนักกระบี่เทพและลัทธิปีศาจโลหิตที่กำลังอ่อนแอ ภายใต้การนำของต้วนมู่หวิน
และลี่อั่วสิงได้ทำข้อตกลงไม่บุกรุกกัน เพื่อพักรักษาตัว ฟื้นฟูกำลัง   หลังจากทำข้อตกลงไม่นาน 
สองพรรคเริ่มหันปลายหอกชี้ไปที่ 7 พันธมิตรสราญรมย์   ที่ไม่เข้าร่วมในศึกฟ้าคลั่ง  เพื่อเป็นการ
ป้องกันตนเอง 7 พันธมิตรสราญรมย์จึงสลายความแตกแยกรวมตัวเป็นพรรคสราญรมย์เลือกประมุข
พันธมิตรเทียนซานโจวอู๋จี้เป็น หัวหน้าพรรคคนแรก 
 
ปีฟ้าคลั่งที่ 330 
 
เดือนสอง   โจวเซวียนหลิงลูกสาวของโจวอู๋จี้กำเนิดออกมากลายเป็นนักบุญหญิงคนแรกของพรรค
สราญรมย์ หลังจากลี่อั่วสิงรู้ข่าวนี้เข้าได้เดินทางไปถึงที่เพื่อสู่ขอนางให้แก่บุตรคนรองของตัวเองหลัง
จากโจวอู๋จีไตร่ตรองเป็นเวลานานก็ปฎิเสธเรื่องนี้ไปอีกทั้งชี้ให้เห็นว่าแม้พรรคสราญรมย์กับลัทธิปีศาจ
โลหิตมาจากที่เดียวกัน ทว่าบัดนี้ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กันแล้ว พรรคสราญรมย์ไม่อยากนำตัวเองเข้าไปสู่
การชิงดีชิงเด่นในยุทธภพ ลี่อั่วสิงที่ถูกปฏิเสธซึ่ง ๆ หน้าออกจากพรรคสราญรมย์อย่างเดือดดาลจาก
จุดนี้ได้ฝังเมล็ดแห่งความขัดแย้งที่จะมีขึ้นในวันหน้าอีกครั้ง 
 
เดือนสาม   โจวอู๋จี้เสนอให้ทั้งสามพรรคทำข้อตกลงไม่บุกรุกกัน ร่วมกันรักษาความสงบของยุทธภพ
ต้วนมู่หวินกับลี่อั่วสิงจึงตอบตกลงอย่างรวดเร็วด้วยความเต็มอกเต็มใจ ด้วยเหตุนี้ เป็นการเริ่มต้นความ
สุขสงบเป็นช่วงเวลาสิบกว่าปี 
 
ปีฟ้าคลั่งที่ 347  :  ลมพายุพัดอีกครั้ง ฟ้าคลั่งก่อกวนยุทธภพ 
 
เดือนหนึ่ง เซียวอินผู้คุ้มกฎลัทธิฟ้าคลั่งที่หายตัวไปสิบกว่าปีจู่ ๆ ปรากฎตัวที่หมู่บ้านกระโจมไฟมีหญิง
สาวสวมเสื้อคลุมร่างสีดำนางหนึ่งติดตามเขามาด้วย หลังจากที่พวกเขาอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านกระโจมไฟ
ระยะหนึ่ง ก็มาที่เมืองฟ้าคลั่งที่ถูกทำลายไปสิบกว่าปีก่อนที่นี่ กำลังคนที่พวกเขาแอบซ่องสุมเอาไว้ใน
ตอนนั้นวางแผน จะกอบกู้ลัทธิฟ้าคลั่ง ทว่า เนื่องจากศิลาศักดิ์สิทธิ์ฟ้าคลั่งหายไป ทำให้คนในลัทธิไม่
ได้รับกำลังวิชาเสริมอย่างเพียงพอ เซียวอินตัดสินใจไปที่ลัทธิปีศาจโลหิตชิงศิลาศักดิ์สิทธิ์คืนมา 
 
เดือนสอง ลัทธิปีศาจจัดงานรื่นเริงต้อนรับฤดูใบไม้ผลิที่มีปีละครั้งที่วังมารฟ้าจ้าวลัทธิลี่อั่วสิงออกต้อน
รับศิษย์สำนักกระบี่เทพและพรรคสราญรมย์ที่มาอวยพร สามพรรคฉลองปีใหม่ร่วมกัน และหารือเรื่อง
ระเบียบของยุทธภพในปีใหม่   เป็นหนึ่งในเนื้อหาของข้อตกลงในตอนนั้น ในบรรยากาศแห่งความสุข
นี้เอง มีเงามืดปรากฎตัวที่ห้องสมบัติของลัทธิปีศาจโลหิต หลังจากทำให้องครักษ์สลบไปแล้วก็ขโมย
เอาศิลาศักดิ์สิทธิ์ที่ซ่อนไว้ชั้นบนสุดไปลี่อั่วสิงที่มาถึงในภายหลังหยุดอีกฝ่ายไม่ได้ หลังจากประกระบี่
กันแล้วปล่อยให้อีกฝ่ายหนีรอดไปได้  ตอนที่อีกฝ่ายหนีไปลี่อั่วสิงพบว่ากระบี่เล่มนั้นเป็นกระบี่ปราบ
เซียนของพรรคเผิงไหลที่ถูกเซียวอินขโมยไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน 
 
เดือนหก   สำนักกระบี่เทพและลัทธิปีศาจโลหิตต่างได้รับสาส์นฉบับหนึ่งจากลัทธิฟ้าคลั่งหยางปี้เหยา
ลูกสาวของหยางอี้เทียนจะนำพาลัทธิฟ้าคลั่งชำระแค้นกับสองพรรค ลี่อั่วสิงจึงได้รู้ว่าผู้ที่มาขโมยศิลา
ศักดิ์สิทธิ์ไปเมื่อหลายเดือนก่อนที่แท้ก็คือหยาวปี้เหยาผู้นี้นี่เองสองพรรคเผชิญกับศัตรูตัวฉกาจ ไม่มี
ผู้ใดอยากให้เกิดเรื่องราวในครั้งนั้นขึ้นอีกแต่ผ่านไปหลายเดือนกลับไม่มีข่าวคราวจากลัทธิฟ้าคลั่งแม้
สักนิด ดังนั้นสองพรรค จึงผ่อนคลายความตึงเครียดลงได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น